ผบ.ตร. สั่งเข้มทุกหน่วย ปฏิบัติตามกฎเหล็กจุดตรวจ

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.00 น.

ผบ.ตร. สั่งเข้มทุกหน่วย ปฏิบัติตามกฎเหล็กจุดตรวจ ตำรวจแต่งเครื่องแบบมี bodycam บันทึกข้อมูลด่าน ใช้วาจาสุภาพ แม่นกฎหมาย นำหลักรัฐศาสตร์มาช่วยในการตรวจตรานักท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดี พร้อมสั่งคุมอบายมุขทุกประเภท ห้ามปล่อยปละละเลย ใครฝ่าฝืนพร้อมลงดาบทันที

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล, พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ ร่วมกับ ผบช., ผบก., รอง ผบก. และ หัวหน้าสถานีหน่วยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจการตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัด การลงข้อมูลในระบบ TPCC การเสริมสร้างทางวินัยคุมเข้มการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ และอบายมุขทุกประเภท

ในที่ประชุม ผบ.ตร. สั่งการให้หน่วยปฏิบัติตามหนังสือ ตร.ด่วนที่สุด ที่ 0007.22/438 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัดทุกนาย แต่งเครื่องแบบ และติดกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิทัล (Police Body Camera) ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติให้บันทึกภาพ และเสียงขณะตรวจไว้ตลอดเวลา แล้วนำไปจัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของหน่วยในโอกาสแรกหลังเลิกการปฏิบัติโดยเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 20 วัน

การตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และจุดตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ต้องได้รับอนุมัติจาก ผู้บัญชาการขึ้นไปทุกครั้ง กำชับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ ให้ทุกหน่วยลงข้อมูลในสารสนเทศของตำรวจ (Thai Police Checkpoint Control : TPCC) ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. บช. หรือ ภ. และ บก. หรือ ภ.จว. ออกสุ่มตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด ให้เป็นไปตามแนวทางที่ตำรวจกำหนด หากตรวจพบให้แนะนำ ตักเตือน ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็ว ทั้งนี้ให้ติดตามผลการปรับปรุงแก้ไขในกรณีดังกล่าวด้วย พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสุ่มตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ โดยนำข้อมูลจุดบกพร่อง ปัญหาที่พบเข้าที่ประชุมบริหาร บช.น., ภ.1-9 เพื่อแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป หากมีกรณีร้องเรียนปรากฏเป็นข่าวหรือปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ และผลการตรวจสอบ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหรือเรียกรับสินบน ให้พิจารณาดำเนินการทางวินัย อาญา และปกครอง แล้วแต่กรณีกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และพิจารณาข้อบกพร่องของผู้บังคับบัญชา ผู้ที่มีหน้าที่ควบคุมกำกับ ดูแล จนถึง หัวหน้าสถานีหรือระดับ กองบัญชาการหรือตำรวจภูธรจังหวัด ที่ปล่อยปละละเลย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ยังได้กำชับการเสริมสร้างระเบียบวินัย ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ทุจริต ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ปล่อยปละละเลยให้มีอบายมุขในพื้นที่ ทั้งบ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ สถานบริการ และการค้ามนุษย์ในพื้นที่ โดยยึดถือปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลง 27 เมษายน 2558 อย่างเคร่งครัด และให้ผู้บังคับบัญชาตามคำสั่ง 1212/2537 ลง 1 ตุลาคม 2537 ลงไปควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทั้งในและนอกเวลาราชการ

ผบ.ตร. ได้ย้ำในที่ประชุมในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรงหรืออาชญากรรมสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ทั้งอาวุธปืน, ยาเสพติด และการแข่งรถในทาง ให้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำการจับกุมให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยในสังคม โดยห้ามมีการเรียกรับสินบน หรือผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด กำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจต้องใช้วาจาสุภาพเป็นมิตร สามารถชี้แจงข้อกฎหมาย ข้อสงสัยให้ประชาชนทราบได้อย่างชัดเจน เช่น การขอตรวจค้นต้องเป็นไปตามอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้ และการตรวจแอลกอฮอล์ที่จุดตรวจเฉพาะกรณีคนขับมีกลิ่นสุราหรือมีพฤติกรรมคล้ายคนเมา เป็นต้น

ส่วนกรณีเรียกตรวจนักท่องเที่ยวให้นำหลักรัฐศาสตร์มาใช้ กรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากไม่ได้พกพาหนังสือเดินทางฉบับจริง สามารถใช้สำเนาหรือภาพถ่ายได้ การไม่พกพาหนังสือเดินทางไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่หากเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสงสัยให้ประสานกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หมายเลข 1178 หรือ ตรวจคนเข้าเมืองในต่างจังหวัด ช่วยตรวจสอบข้อมูลกับศูนย์สารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และบรรยากาศที่ดีต่อการท่องเที่ยว

#มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ

#policeofficial

#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ